หากไม้่ได้รับเอกสาารฉบับนี้เราก็มีเหตุผลอยู่แล้วว่า ทำไม่ต้องเข้มงวดเรื่องการเตรียมฝึกฯ ทั้งการส่งเอกสาร การจัดรูปเล่ม ความถูกต้องของชื่อหน่วยงาน ชื่อบุคคล การเขียนจดหมายสมัคร และอื่นๆ เหล่านี้เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักศึกษามีความรู้ ความสามารถ ก่อนที่จะออกไปฝึกงานฯกับหน่วยงานภายนอกได้อย่างไม่อายใคร
ครั้นได้รับหนังสือ "ผ่านสายตรงผู้บริหารฯ"ยิ่งมั่นใจว่า หลักสูตรรัฐศาสตร์ ไม่หลงทาง ! เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะที่ผ่านมาข้อมูลที่เราได้รับมันอธิบายเกี่ยวกับคุณภาพของเด็กของเราเป็นไปตามที่อยู่ในหนังสือฉบับนี้เป๊ะ! "น้องไม่มีทักษะด้านคอมฯ ใช้เครื่องมือไม่เป็น แต่งกายไม่เรียบร้อย ขาดสัมมาคารวะ ไม่กระตือรือร้น"..... เมื่อเห็นแบบนี้แล้วรู้สึก สลดใจ !! ก็อย่างที่ว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว การรังสรรค์กิจกรรมในวิชาเตรียมฝึกฯ ยังน้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำที่
อ่านข้อความซ้ำอีก!! อดนึกถึงว่าที่บัณฑิตรัฐศาสตร์กำลังจะก้าวออกจากกำแพงวังสวนบ้านแก้วไม่ได้ เพราะพวกเขากำลังจะออกไปเผชิญโลกของความเป็นจริง แม้การฝึกงานจะไม่หนักหนาสาหัสเท่ากับการทำงานจริงๆ เช่น แน่นอนบางคนทำงานแบบเสมือนจริง บางคนอาจจะทำงานจริง คือ มีค่าตอบแทนด้วย ก็นี่คือเบื้องหน้าที่ว่าที่บัณฑิตฯต้องไปเผชิญเอง อาจถูกบ่น ถูกตำหนิ ถูกชม และอะไรต่อมิอะไร แต่ในขณะที่เบื้องหลัง ก็คือ อาจารย์ในหลักสูตรก็ต้องลุ้นอย่างใจจดใจจ่อว่า "สิ่งห์รุ่นแรก" จะเป็นอย่างไร พวกเค้าจะช่วยเปิด หรือ ปิดประตูแห่งโอกาส แล้วหลักสูตรรัฐศาสตร์จะเป็นอย่างไรต่อไป เช่น ควรเปิดและผลิตบัณฑิต หรือควรปิดไปเลยดี...
แต่อย่างไรก็ตามเท่าที่ทดสอบเบื้องต้นได้เห็นว่า ว่าที่บัณฑิตของเราหลายคนดูดี มีความสามารถพอที่จะส่งไปฝึกฯได้อย่างไม่อายใคร แต่ก็ไม่น้อยทีเดียว ที่คณาจารย์ หลักสุตรและรุ่นน้องๆ ต้องเตรียมใจและก้มหน้ายอมรับบางสิ่งอย่างอดทน !! ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า "ปลาข้องเดียวกัน"
.....WS. 5/10/58
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น